Quality Score นั้นสำคัญไฉน ?
หากคุณเป็นคนที่ใช้ Google Adwords เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ คงจะคุ้นเคยกับคำว่า Quality Score กันดีอยู่แล้ว ถ้ายังไม่คุ้นเคย รีบๆทำความคุ้นเคยกับมันซะ อ่านดูตรงนี้ก็ได้ (ขายของนิดนึง) Quality Score คืออะไร อ่านฟรีครับ จริงๆก็ฟรีทั้งบล๊อกเลย 555
เนื่องจาก Quality Score นั้นเป็นหนึ่งใน Key Metric หลักที่เอาไว้ใช้วัดประสิทธิภาพของ Keyword โฆษณา และคุณภาพเว็บไซต์ ของคุณว่ามันมีคุณภาพมากน้อยเพียงใด เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงนั่นเองครับ
แล้วจะเริ่มต้นอย่างไรดี ?
3 ปัจจัยหลักๆที่ส่งผลต่อคะแนนคุณภาพ หรือ Quality Score นั้น ก็คือ
- Ad Relevance
- Expected CTR
- Landing Page Experience
จะเห็นว่า 2 ปัจจัยแรกนั้น สามารถปรับปรุงได้ภายใต้ Campaign ของ Google Adwords ด้วยตัวมันเองเลยครับ (ปรับปรุงอย่างไรนั้น แนะนำให้อ่านดูใน Quality Score คืออะไร นะครับ)
จะมีเพียงแค่ Landing Page Experience เท่านั้นที่เราจะต้องไปปรับปรุงกันที่หน้าเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะเป็นหัวข้อที่เราจะพูดถึงกันนะครับ
วิธีปรับปรุง Landing Page เพื่อ Quality Score ที่ดีขึ้น
การปรับปรุง Landing Page นั้น นักการตลาดสาย PPC อย่างเราๆจะค่อนข้างลำบากใจนิดนึง เพราะจะต้องขอความช่วยเหลือจาก Web Developer ซึ่งแสนจะอินดี้ซะเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรครับ แต่เพื่อเงินชั้นทำได้ เดี๋ยวเราจะไล่กันไปทีละจุดเลยดีกว่า ว่าเราจะปรับปรุง Landing Page Experience ให้กับเว็บไซต์เราได้อย่างไรดี !
ปรับปรุงเนื้อหาภายใต้หน้า Landing Page
เนื้อหาที่คุณนำเสนอในเว็บไซต์นั้น จะต้องสอดคล้องกับโฆษณาของคุณด้วย แถมยังจะต้องมีประโยชน์แก่ผู้อ่าน พูดถึงสิ่งที่คุณทำการโฆษณา และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าเนื้อหาเหล่านั้น สดใหม่ ไม่ซ้ำกับผู้อื่น
พยายามเจาะจงลงไปเลยเมื่อทราบว่าผู้ค้นหานั้น ค้นหาเรามาด้วย Keyword อะไร อย่างเช่น ผมค้นหาด้วยคำว่า “ราคา Vios มือสอง” ผมคาดหวังว่าจะเข้าไปหน้า Landing Page ที่เต็มไปด้วยข้อมูลของรถ Vios มือสอง ไม่ใช่ Yaris/Camry หรือรวมไปถึง ผมต้องมานั่งเลือกรุ่น Vios เองอีกครั้งนึง
ในมุมกับกัน หากผมค้นห้าไปด้วยคำว่า “เปรียบเทียบประกันเดินทาง” ผมไม่ได้คาดหวังประกันเจ้าใดเจ้าหนึ่งเป็นพิเศษ โปรดส่งผมไปยังหน้า Landing Page ที่ให้ผมกรอกข้อมูลเดินทางเบื้องต้น เพื่อทำการเปรียบเทียบประกันเดินทาง ด้วยตัวเอง
ให้ข้อมูลธุรกิจของคุณอย่างจริงใจ
ถ้าคุณต้องการให้ลูกค้าติดต่อคุณได้ง่ายๆ คุณควรจะต้องวางข้อมุลที่ติดต่อได้ไว้ภายใต้หน้า Landing Page นั้นๆให้ง่ายต่อการเข้าถึง ยิ่งสมัยนี้ลูกค้าไม่ค่อยชอบใช้การโทรศัพท์เข้ามา ดังนั้นวาง Link ของ LINE ไว้ก็ได้นะครับ แถมยังใช้ Event Tracking วัดผลมันได้อีก (ขอขายของอีกครั้ง 555 วิธีวัดผลการคลิ๊ก Link ไปภายนอก)
ยิ่งผู้ค้นหา หาข้อมูลในการติดต่อกับธุรกิจคุณง่าย ยิ่งทำให้หน้า Landing Page ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยิ่งคุณต้องการให้ผู้ค้นหาเหล่านั้นกรอกข้อมูลหรือแบบฟอร์มต่างๆ คุณก็ควรจะเขียนอธิบายให้ละเอียด/ชัดเจนไปเลย ว่าจะนำข้อมูลไปทำอะไร เช่น การติดต่อกลับ หรือ การขอใบเสนอราคา
UX/UI ที่ดีนั้นช่วยคุณได้
การออกแบบ Website Menu Bar ไม่สามารถมองข้ามไปได้นะครับ เพราะเจ้า Website Menu Bar จะเป็นสิ่งที่ผู้ค้นหานั้นจะไปต่อ จะพยายามหาข้อมูลสำคัญๆอื่นๆเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งมันจะส่งผลกระทบกับจำนวน Traffic/Page-Viewed รวมไปถึง Conversions อีกด้วย
การที่คุณมี Pop Up ขึ้นมาบดบังเนื้อหาในหน้า Landing Page ของคุณเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะทำโดยเด็ดขาด เค้าอาจจะรำคาญและกดปิดหน้าเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายๆในทันที (Bounce Rate ก็สูงขึ้นด้วยนะเออ!)
ความเร็วของหน้า Landing Page และ Website ต้องแรง !
ใครๆก็ชอบความแรงและเร็วของการเข้าเว็บไซต์ ลองเข้าไปเช็คดูครับว่าเว็บไซต์ของคุณมีความแรงเพียงพอมั้ย ใช้ของ Google นี่แหล่ะ เค้าอุตส่าห์ทำมาให้เราใช้ฟรีๆ Test My Site เราก็จะรู้ได้ว่าเราควรจะขอความช่วยเหลือจาก Web Developer ให้ช่วยปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้า Landing Page รึเปล่า
ลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ Quality Score 10/10 นั้นไม่เกินเอื้อมแน่ๆ สำหรับวันนี้ลากันไปก่อนเด้อ ! จัดจบกันง่ายๆตามสไตล์เรา 555
Tae