เมื่อครอบครัวจะเดินทางยกแกงค์ แต่ว่าคุณไม่ได้ไปด้วย T-T
เนื่องมาจากว่าครอบครัวของผมจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น เพื่อไปร่วมงาน Argi World ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ทางครอบครัวจึงได้ไหว้วานให้ผมช่วยจัดการเรื่อง Private Tour ที่นู่นและเรื่องการเดินทางจากไทย รวมไปถึงประกันเดินทางและอุปกรณ์สื่อสารพวก Pocket Wifi สำหรับสูงวัยติด Social อย่างแม่ผม lol
เรื่องการจัดการการเดินทางนั้นไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไหร่ เนื่องจากช่วงเวลาที่เดินทางนั้น ตั๋วแพง แพงมากๆ แถมก่อนเข้าร่วมงานทางครอบครัวผมจะเดินทางไป Nagoya ก่อนซะอีก เนื่องจากแม่ผมไม่เคยไปเที่ยวหมู่บ้าน Shirakawa-go นั่นเอง เรื่องสายการบินจึงมีตัวเลือกไม่กี่ที่ และแน่นอนว่า การบินไทย จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ และเรื่อง Private Tour ทางครอบครัวเลือกจะให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นจัดการให้ ทำให้ภาระผมอยู่ที่ประกันเดินทางและ Pocket Wifi เท่านั้นแล หนึ่งในสาเหตุที่ผมไม่ได้เดินทางไปด้วยในครั้งนี้คือ เพิ่งไปมาครับ ดูจากรูปถ่ายด้านล่างสิครับ อิอิ
เปรียบเทียบประกันเดินทาง ประจำปี 2017
ประกันเดินทางนั้นระยะหลังมานี้ครอบครัวของผมจะซื้อกันเป็นประจำอยู่แล้ว ด้วยความที่ทุกคนเคยเกิดเหตุกันกับตัวเองครั้งเดินทางในอดีต (สำนวนดีมั้ย 55) แต่ว่าล่าสุดนั้นที่มีข่าวของน้องผู้หญิงที่เดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีแล้วหมดสติที่นั่น จึงทำให้ทุกๆคนหันมาสนใจว่าประกันเดินทางที่เราเคยซื้อนั้น ครอบคลุมอะไรบ้าง และแบบไหนที่ไม่ครอบคลุม นี่จึงเป็นที่มาของภารกิจการเปรียบเทียบประกันเดินทางของผมนั่นเอง น้องสาวผมเป็นนักเรียนอยู่ออสเตรเลียซึ่งมี ประกันสุขภาพ อยู่แล้วก็ยังคงเลือกซื้อประกันเดินทางด้วยนะครับ
เกณฑ์ในการเลือกแผนประกันภัยนั้น ไม่มีอะไรมากครับ เลือกเอาเท่าที่ผมรู้จัก และสามารถ Google หาเจอช่องทางในการซื้อออนไลน์ได้ เพราะผมจะได้กรอกข้อมูลการเดินทางเบื้องต้นสำหรับการดูราคาและความคุ้มครองนั้นๆได้นั่นเองครับ และนี่คือผู้ท้าชิงของผม
5 เจ้าที่ว่ามานี่ ผมเคยซื้อใช้งานเองอยู่ 3 เจ้าด้วยกันซึ่งก็คือ AIG,MSIG และล่าสุดคือ SOMPO ไม่เคยเคลมครับ ดังนั้นการเปรียบเทียบแผนของผมจึงเป็นการเอาราคามาวางเปรียบเทียบกันเฉยๆนะครับ ข้อดี-ข้อเสีย อาจจะแตกต่างกันตามแต่ความต้องการของแต่ละคน และผมเลือกวันเดินทางของครอบครัวผมเป็นเกณฑ์คือ วันเดินทาง 7 วัน เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
*** ของ AIG เค้าทำเว็บไซต์ใหม่มาแล้ว งดงามดี แต่ในตารางเปรียบเทียบผมยังไม่ได้ลงไว้ ไว้มีเวลาจะมา update ใหม่นะครับ (March 2018) ***
ความคุ้มครองชีวิต
ความคุ้มครองชีวิตมักถูกนำมาเป็นจุดขายของประกันภัยประเภทต่างๆ คุ้มครองสูงไม่สูงมักจะเอาจุดนี้มาขายกัน ซึ่งลึกๆลงไปแล้วต้องดูรายละเอียดอื่นๆประกอบกันด้วยครับ โดยการเลือกแผนประกันเดินทางให้ครอบครัวของผมนั้น ผมจะเลือกที่ความคุ้มครองกรณีรักษาพยาบาลมากกว่าครับ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่นู่นแพงมากๆ ดังนั้นในหัวข้อความคุ้มครองชีวิตนั้น ผมจะหยิบหัวข้อ ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นขณะเดินทางในต่างประเทศ มาเปรียบเทียบกันครับ
ความคุ้มครองเที่ยวบิน
ในหัวข้อความคุ้มครองของเที่ยวบิน เป็นหัวข้อที่ต้องดูรายละเอียดให้ดีๆครับ นอกจากวงเงินสูงสุดที่แผนประกันนั้นจ่ายให้ แผนประกันนั้นจ่ายยังไง บางเจ้าจะจ่าย 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ต่อเนื่องทุกๆ 6 ชั่วโมง บางเจ้าก็ทุกๆ 8 ชั่วโมง หรือบางเจ้าก็จ่ายมากกว่า 10% ครับ
และเรายังต้องดูรายละเอียดข้างในอีกด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดการยกเลิก,เลื่อน,ล่าช้าหรือการพลาดต่อเที่ยวบิน นั้นมีสาเหตุมาจากอะไร ซึ่งโดยปกติแล้วสาเหตุที่เกิดจากการดำเนินงานของสายการบินเองแล้วนั้น บริษัทประกันจะไม่ได้รับผิดชอบ ที่เห็นข่าวเร็วๆนี้ก็มีสายการบินไป Okinawa ยกเลิกเที่ยวบินเอาดื้อๆเลย แบบนี้เราต้องไปเรียกร้องกับสายการบินเอาเองนะครับ T-T
ความคุ้มครองกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัว
ในหัวข้อความคุ้มครองกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัวนั้น น่าจะแตกต่างกันไปตามแต่ประสบการณ์และ Life Style ในการเดินทางครับ อย่างเช่นตัวผมเองเคยมีประสบการณ์กระเป๋าไม่มา ซึ่งกระเป๋าที่โหลดไปนั้นจำเป็นในการใช้ชีวิตในช่วงนั้นมากๆ เช่นยารักษาโรคประจำตัว ไดร์เป่าผมของคุณแฟน เสื้อสูท จากประสบการณ์ของผมเช่นนี้ ผมจึงมองว่าเรื่องของกระเป๋าเดินทางล่าช้านั้นสำคัญกับผมมากๆ มันคงไม่สนุกแน่ๆที่ค่าใช้จ่ายเราจะเพิ่มโดยไม่ได้คาดคิดไว้ก่อน
แต่ขณะเดียวกัน หากผมเดินทางไปแบกเป้ท่องเที่ยว กระเป๋าที่โหลดไม่ได้มีอะไรมากกว่าเสื้อผ้า ผมอาจจะมองว่าความคุ้มครองกระเป๋าล่าช้านั้นไม่จำเป็น ซึ่งแตกต่างกับการเดินทางแบบ Business Trip ที่อาจจะมีความจำเป็นต้องโหลด Notebook เสื้อสูท ลงไป แบบนี้หัวข้อความคุ้มครองกระเป๋าเดินทางก็จำเป็นต้องนำมาพิจารณาด้วยครับ
ความคุ้มครองและสิทธิพิเศษอื่นๆ
หัวข้อนี้แต่ละแผนประกันภัยจะมีความแตกต่างกัน ตามแต่ละบริษัทจะออกแบบผลิตภัณฑ์ของเค้าเองมาเสนอขายเราอย่างไร มันเลยยากมากๆที่จะนำมันมาเปรียบเทียบกันได้ง่ายๆ หากดูตารางความคุ้มครองของหลายๆค่ายแล้วนั้น พอจะ List ออกมาได้ประมาณนี้ครับ ว่าความคุ้มครองและสิทธิพิเศษอื่นๆที่น่าสนใจนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อประกันเดินทางนั้นมีอะไรบ้างครับ
- ค่าโทรศัพท์กรณีฉุกเฉิน
ค่าโทรศัพท์กรณีฉุกเฉิน ไม่ค่อยมีค่ายไหนให้ ที่เห็นตอนนี้มี SOMPO ให้ค่าโทรศัพท์กรณีฉุกเฉิน 1,000 บาท กับทุกแผนประกันเดินทาง และมี AIG ให้ค่าโทรศัพท์กรณีฉุกเฉิน ระหว่าง 200-500 บาท แล้วแต่แผนประกันที่เราเลือกครับ
- ความเสียหายส่วนแรกสำหรับรถเช่า
ใครที่เช่ารถขับแนะนำหัวข้อนี้เลยครับ ความเสียหายส่วนแรกสำหรับรถเช่า ความคุ้มครองนี้ MSIG โดดเด่นมาเลยด้วยการให้มากับทุกแผน วงเงินระหว่าง 15,000 – 25,000 บาท ส่วน SOMPO จะมีให้เฉพาะแผน C ที่ราคาแพงสุดเท่านั้น โดยให้วงเงิน 20,000 บาทครับ
- เงินชดเชยระหว่างการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในต่างประเทศในฐานะผู้ป่วยใน
เงินชดเชยระหว่างการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในต่างประเทศในฐานะผู้ป่วยใน ส่วนใหญ่แล้วจะให้ไม่เกิน 3,000 บาท/วันครับ และจะอยู๋ในแผนที่มีราคาสูงสักหน่อย MSIG เป็นเจ้าเดียวที่ให้ครบทุกแผนครับ
- ความสูญเสียหรือความเสียหายของเอกสารการเดินทาง
ในเรื่องของความสูญเสียหรือความเสียหายของเอกสารการเดินทางนั้น ไม่ได้มีครบทุกแผนประกันครับ วงเงินมากน้อยต่างกันไป จนถึงไม่คุ้มครองเลยในแผนราคาถูกๆ ซึ่งตรงนี้ต้องชั่งใจเอากันดูครับ
- ความสูญเสียหรือความเสียหายของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
ความสูญเสียหรือความเสียหายของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค มี SOMPO และ MSIG ที่แยกหัวข้อนี้เพิ่มเติมออกมาจากความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัวครับ ซึ่งทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางภาษาและไม่ต้องสำรองจ่าย
หัวข้อนี้จริงๆแล้วเป็นจุดขายของ SOMPO เค้า คือบริการสื่อสารกับคุณหมอที่ญี่ปุ่น เป็นภาษาญี่ปุ่นให้โดยตรงจากเมืองไทย เพียงโทรไปตามเบอร์ที่เค้าแจ้งไว้ ซึ่งมันช่วยลดความกังวลของคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นไปได้เยอะเลยครับ และอีกจุดขายหนึ่งคือ ไม่ต้องสำรองจ่าย ถ้าเข้า รพ.ในญี่ปุ่นที่อยู่ในเครือของเค้า ซึ่ง 2 จุดขายนี้ทำให้ประกันของ SOMPO แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ และน่าสนใจสุดๆสำหรับคนที่เดินทางไปญี่ปุ่นขึ้นมาทันที
ความคุ้มครองทั้ง 3 ส่วนสามารถดูในรูปแบบตารางได้ที่นี่ครับ CLICK ถ้าเพื่อนๆเห็นข้อความหรือตัวเลขไหนผิดสามารถแจ้งมาได้นะครับ จะรีบแก้ไขให้ ^^
ประกันเดินทาง เราจะเลือกแบบไหนดี ?
จริงๆแล้วผมไม่อาจจะสรุปได้ครับ ว่าแผนประกันเดินทางแบบไหนเหมาะกับคุณ เนื่องจากมุมมองในความเสี่ยงของเรานั้นย่อมต่างกันครับ และอีกอย่างหนึ่งผมก็ไม่ใช่คนที่ช่ำชองเรื่องประกันเดินทางซักหน่อย ไม่เคยเคลมเลยด้วยซ้ำ 555 เพราะเราซื้อเนื่องจากเราไม่อยากใช้ ดังนั้นเพื่อนๆต้องชั่งใจ ชั่งน้ำหนักกันดูครับ ว่าราคาประกันเดินทางประมาณเท่านี้ เทียบกับความคุ้มครองที่ได้ คุ้มค่ารึเปล่า อย่ามัวไปดูของแถมมันมากนัก ดูความคุ้มครองจะดีกว่า ^^
ถ้าให้ผมเลือกซื้อประกันเดินทางให้ครอบครัวของผม ผมจะเลือกเปรียบเทียบโดยดูหัวข้อเหล่านี้ครับ ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นขณะเดินทางในต่างประเทศ, ความคุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า, ความเสียหายส่วนแรกสำหรับรถเช่า ว่าแผนไหนให้ความคุ้มครองครบทั้ง 3 ส่วนนี้บ้าง เพราะว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางของแกงค์เกษียณอายุ ความเสี่ยงในการเจ็บป่วยก็มีมากกว่า แถมมีการไปร่วมงานแฟร์อีก พวกกระเป๋า Delay จึงสำคัญกับพวกเค้ามากครับ และที่จำเป็นต้องดูความเสียหายส่วนแรกสำหรับรถเช่า ก็เพราะว่ามีการเช่ารถขับไปเที่ยว Shirakawa-Go กันด้วยนั่นเอง
ถ้าหากเพื่อนๆจะเดินทางไปยังต่างประเทศ อย่าลืมซื้อประกันเดินทางกันนะครับ ^^
Tae